เงื่อนไขในการส่งพัสดุ
ข้อกำหนดและเงื่อนไขในการให้บริการสำหรับบริการส่งพัสดุด่วน
คำนิยาม
“บริษัท” หมายถึง บริษัท ชัยพัฒนาขนส่งเชียงใหม่ จำกัด ผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุ รวมถึงพนักงาน ตัวแทนรับพัสดุและผู้ให้บริการร่วม
“ผู้ส่ง” หมายถึง ผู้เข้ารับบริการส่งพัสดุของบริษัท ชัยพัฒนาขนส่งเชียงใหม่ จำกัด
“ผู้รับ” หมายถึง บุคคลหรือผู้รับพัสดุ เขา / เธออาจเป็นผู้รับมอบเอง หรือบุคคลอื่น ณ ที่อยู่ของผู้รับมอบ หรือสำนักงานบริหาร / นิติบุคคลตามที่อยู่ของผู้รับมอบ
“สินค้า” หมายถึง สิ่งของที่ผู้เข้ารับบริการส่งพัสดุบรรจุลงภายในบรรจุภัณฑ์ เพื่อดำเนินการจัดส่งพัสดุ กับบริษัท ชัยพัฒนาขนส่งเชียงใหม่ จำกัด
“บรรจุภัณฑ์” หมายถึง บรรจุภัณฑ์ประกอบไปด้วยกล่องกระดาษ กล่องโฟม ถุงกระสอบ ลังไม้ พาเลทหรือถัง เทปกาว เชือกมัดฟาง พลาสติกแร็ป วัสดุกันกระแทก ยกเว้นสายรัดหรือที่รัดจะไม่นับเป็นบรรจุภัณฑ์
“ใบลงทะเบียนส่งพัสดุภัณฑ์” หมายถึง ใบตราส่งหรือเอกสารที่ออกให้แก่ผู้ส่งพัสดุกับ บริษัท ชัยพัฒนาขนส่งเชียงใหม่ จำกัด เพื่อเป็นหลักฐานสำหรับยืนยันการรับมอบพัสดุจากผู้ส่งพัสดุ
“ข้อตกลงและเงื่อนไข” หมายถึง ข้อตกลงและเงื่อนไขการให้บริการฉบับนี้ รวมถึงที่อาจได้รับการแก้ไขหรือเพิ่มเติมโดยบริษัทเป็นครั้งคราว ไม่ว่าจะอยู่ในเอกสารฉบับนี้หรือเอกสารอื่นใด
1. การยอมรับข้อตกลง และเงื่อนไข
เมื่อใช้บริการของบริษัทหรือส่งมอบพัสดุให้บริษัท ผู้ส่งได้ยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขในการให้บริการขนส่งพัสดุของบริษัทในนามของผู้จัดส่ง ผู้รับมอบ และบุคคลอื่นใดที่มีหรืออ้างว่ามีส่วนได้เสียกับพัสดุ ซึ่งผู้ส่งและบุคคลดังกล่าวจะผูกพันตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการ
2. พัสดุต้องห้าม หมายถึง พัสดุที่ไม่สามารถจัดส่งได้ หากพบพัสดุดังกล่าว จะดำเนินการตามขั้นตอนของบริษัทหรือกฎหมายต่อไป บริษัทจะไม่รับผิดชอบหากพัสดุเสียหายหรือสูญหายทุกกรณี อันได้แก่
2.1. สินค้าผิดกฎหมายหรือต้องห้ามตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
2.1.1. สินค้าผิดกฎหมายหรือต้องห้ามตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
2.1.2 สินค้าอันตรายรวมถึงสินค้าเสี่ยงอันตรายหรือเป็นพิษ สารเคมี วัตถุไวไฟ วัตถุระเบิด อาวุธปืน หรือสิ่งเทียมอาวุธทุกชนิด ไม่ว่าจะมีใบอนุญาต จากทางราชการหรือไม่ก็ตาม หรือวัตถุมีคมที่ปราศจากสิ่งหุ้มห่อ เช่น มีด ดาบ หอก ขวาน ยุทธภัณฑ์ เป็นต้น
2.1.3. แบตเตอรี่รถทุกชนิดประเภทใช้งานแล้ว
2.1.4. สิ่งเสพติดที่ผิดกฎหมายทุกชนิด ตามพระราชบัญญัติสารเสพติดให้โทษสำหรับสารเสพติดบางประเภทที่มีเงื่อนไขตามกฎหมายในการห้ามรับส่ง และสามารถจัดส่งได้ สามารถตรวจสอบได้จากตารางข้อมูลด้านล่าง
2.1.5. สารเคมีอันตรายและสารเคมีที่มีพิษทุกชนิด เช่น ไซยาไนด์ กรดซัลฟูริก กรดไฮโดรคลอริก กรดไนตริก สารกำจัดศัตรูพืช สารกำจัดแมลง ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ สารทำละลายอินทรีย์ ปุ๋ยเคมีอันตราย แทลเลียม สารหนู ไดคลอโรมิเทน เป็นต้น
2.1.6. สิ่งลามกอนาจาร รวมถึงสินค้าที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของประเทศชาติ
2.1.7. สิ่งของละเมิดลิขสิทธิ์
2.1.8. เอกสารที่เกี่ยวกับการเงิน เช่น เงินตราทุกสกุล ทั้งธนบัตรและเหรียญ หุ้น พันธบัตร ตั๋วเงิน เช็ค บัตรเครดิต/เดบิต/ กดเงินสด ใบหุ้น ใบหุ้นกู้ ใบจำนำ ประทวนสินค้า สลากออมสิน สมุดบัญชีธนาคาร เป็นต้น
2.1.9. สัตว์เลี้ยงผิดกฎหมาย สัตว์มีพิษ และสัตว์เลื้อยคลาน
2.1.10. ซากมนุษย์หรือสัตว์ ชิ้นส่วนของร่างกายหรืออวัยวะ
2.1.11. การจัดส่งโดยไม่บรรจุหีบห่อที่เหมาะสมหรือเพียงพอ
2.1.12. สินค้าราคาสูงที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ และ/หรือสิ่งของที่มีมูลค่าทางจิตใจ และ/หรือสินค้าที่ไม่สามารถทดแทนได้ เช่น ทองแท่ง โลหะหรือหินมีค่า/กึ่งมีค่า เครื่องประดับ อัญมณีและของมีค่าอย่างอื่น ของสะสม เช่น โบราณวัตถุ งานศิลป์
2.1.13. สินค้าลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น สินค้าผิดกฎหมาย ลักลอบหนีภาษี หลีกเลี่ยงภาษี สำแดงเท็จ รวมถึงสินค้าต้องห้ามและต้องจำกัด
2.2. สินค้าที่บริษัทเห็นว่าไม่สมควรในการจัดส่งหรือพัสดุที่ไม่ได้มาตรฐานตามที่บริษัทกำหนด (เสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของบริษัท และพนักงาน)
2.2.1.พัสดุที่มีความกว้าง ความยาวและความสูงมากกว่า 70*150*80 ซม. หรือหนักเกิน 45 กิโลกรัมต่อชิ้น (กรณีผู้ส่งต้องการจัดส่ง ควรแยกพัสดุเพิ่มอีกกล่อง)
2.2.2. พัสดุที่ต้องได้รับใบอนุญาตพิเศษหรือใบอนุญาตสำหรับการขนส่ง การนำเข้าหรือส่งออก
2.3. แม้จะมีบทบัญญัติอื่นใด บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย ความเสียหายหรือการส่งมอบล่าช้าต่อรายการใด ๆ ที่ระบุไว้ในข้อ 2.1
2.4. บริษัทมิต้องชดใช้ค่าเสียหายในการเรียกร้องใด ๆ รวมถึงต้นทุนและค่าใช้จ่ายอันเป็นผลจากการที่ผู้ส่งฝ่าฝืนกฎหมายและข้อบังคับ หรือจากการส่งสินค้าใด ๆ ที่ระบุไว้ในข้อ 2.1 – 2.2
3. พัสดุหรือสินค้าที่ถูกจำกัด คือ สินค้าเปราะบาง สินค้าเน่าเสียง่ายและปนเปื้อนง่าย กรณีพัสดุหรือสินค้าอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม ลูกค้าสา มารถทำการส่งได้ แต่หากพัสดุหรือสินค้านั้นเสียหาย หมดอายุ หรือเน่าเปื่อย บริษัทจะไม่รับผิดชอบค่าเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น ยกเว้นกรณีสูญหายนั้นสามารถดำเนินการชดเชยได้ตามจำนวนจริง แต่ไม่เกิน 2,000 บาท 3.1. สินค้าประเภทของเหลวทุกชนิด และผลิตภัณฑ์ที่มีของเหลวเป็นส่วนประกอบ เช่น เครื่องดื่ม น้ำมัน ครีม ซีรั่ม เจล ฯลฯ
3.2. แบตเตอรี่รถยนต์ (ใหม่) / รถจักรยานยนต์แบบน้ำใหม่
3.3. สินค้าที่ทำจากวัสดุเปราะบาง เช่น เครื่องแก้ว กระจก เซรามิก เครื่องปั้นดินเผา สินค้าที่มีส่วนประกอบจากพลาสติก หรือสินค้าที่มีรูปทรงเฉพาะรูปทรงพิเศษ เป็นต้น
3.4. สินค้าประเภทเปราะบาง เช่น โทรทัศน์ เครื่องครัว เครื่องฉาย โคมไฟ โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก นาฬิกาแขวน เครื่องดนตรีทุกชนิด เป็นต้น
3.5.. สินค้าประเภทอาหารทุกชนิด เช่น ขนม อาหารแห้ง อาหารปรุงสุก หรืออาหารที่มีอายุการเก็บน้อยกว่า 5 วันรวมถึงอาหารที่ไม่สามารถระบุวันหมดอายุได้ จำเป็นต้องบรรจุสินค้าเหล่านี้ให้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม
3.6. ผักและผลไม้ต่างๆ
3.7. สินค้ามือสอง (สินค้าใหม่หรือสินค้าที่ถูกใช้งานแล้ว และมีการขายต่อให้ผู้อื่น)
4. พัสดุหรือสินค้าที่ไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ (ไม่คุ้มครองความเสียหาย และสูญหายทุกกรณี)
4.1. อาหารประเภทของสด หรืออาหารประเภทเน่าเสียง่าย เช่น เนื้อสด อาหารสด เป็นต้น
4.2. บัตรกำนัล คูปอง บัตรของขวัญ ตั๋วคอนเสิร์ต บัตรงานกิจกรรมต่างๆ
4.3. เอกสารทั้งหมด รวมทั้งเอกสารทั่วไปและเอกสารต่างๆ ที่ทางราชการออกให้ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่ หนังสือเดินทาง สูติบัตร เอกสารสัญญา พินัยกรรม และโฉนดที่ดิน เป็นต้น
4.4. พืช ดอกไม้และต้นไม้
4.5. สัตว์เลี้ยง หรือสิ่งมีชีวิตที่รับฝากขนส่งมากับรถโดยสาร
4.6. สินค้าประเภทที่มีการใช้งานแล้ว (สินค้าที่ถูกใช้งานแล้ว แต่ไม่ได้มีการขายต่อให้ผู้ซื้อใหม่)
5. การจัดส่งสินค้า และการรับพัสดุ
5.1. ผู้ส่งหรือผู้รับ ยินยอมชำระค่าระวางตามที่ระบุในใบขนส่งสินค้า
5.2. เงื่อนไขการรรับพัสดุ
5.2.1. ในการรับพัสดุทุกกรณี บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บหลักฐานเอกสารยืนยันตัวตน เช่น บัตรประชาชน, ใบขับขี่, หนังสือเดินทาง ของผู้มารับทุกครั้ง
5.2.2. กรณีผู้รับ มารับพัสดุด้วยตนเอง แสดงหลักฐานข้อ 5.2.1
5.2.3. กรณีให้ผู้อื่นมารับแทน แสดงหลักฐานตามข้อ 5.2.1 ของผู้รับ และผู้รับแทน
5.2.4. กรณีชื่อผู้รับ เป็นนิติบุคคล ผู้รับแทน แสดงหลักฐานตามข้อ 5.2.1
5.2.5. หากผู้รับ ไม่มีหลักฐานตามที่กำหนดในข้อ 5.2.1 บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่ส่งมอบพัสดุให้ผู้รับทุกกรณี
5.3. การจัดส่งพัสดุจะถือว่าเสร็จสิ้น เมื่อพัสดุถูกส่งไปยังปลายทางที่ระบุไว้ในใบลงทะเบียนส่งพัสดุภัณฑ์และมีลายมือชื่อของผู้รับสินค้า หลังจากผู้รับตรวจสอบ และเซ็นชื่อรับพัสดุไปแล้ว ปรากฏว่ามีความเสียหายหรือสูญหายใดๆ เกิดขึ้นในระหว่างที่พัสดุอยู่ในความครอบครองของผู้รับแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายของพัสดุทุกกรณี
5.4. บริษัท อาจปฏิเสธการส่งพัสดุ แม้ว่าจะมีการรับมอบบรรจุภัณฑ์ไว้แล้วก็ตาม และจะทำการส่งพัสดุคืนให้แก่ทางผู้ส่งโดยค่าใช้จ่ายในการส่งพัสดุที่มีการชำระ แล้วไม่สามารถขอคืนได้ ไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น และในกรณีที่มีความจำเป็น หรือฝ่าฝืนข้อตกลง บริษัทฯ สามารถทำลายพัสดุได้ โดยจะแจ้งให้ทางผู้ส่งทราบโดยเร็ว
5.5. กรณีผู้รับปฏิเสธการรับพัสดุ หรือไม่ยอมชำระค่าระวางเรียกเก็บเงินปลายทาง บริษัทจะทำการส่งคืนพัสดุให้กับผู้ส่งพัสดุต้นทางทันที และบริษัทจะเรียกเก็บ ค่าบริการที่เกิดขึ้นจากการส่งคืนพัสดุนั้นตามจริง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับประกันเคลมพัสดุหรือสินค้านั้นทุกกรณี
6. ข้อปฏิบัติในการส่งพัสดุ เพื่อให้สามารถส่งพัสดุได้อย่างถูกต้อง และปลอดภัย
6.1. ผู้ส่งต้องแจ้งมูลค่า ชื่อและลักษณะของพัสดุตามความจริง และเขียนชื่อที่อยู่ เบอร์ติดต่อของผู้รับและผู้ส่งให้ถูกต้องชัดเจน
6.2. กรณีผู้ส่งปกปิดข้อมูล หรือแจ้งข้อมูลเป็นเท็จ หรือบริษัทพบว่าพัสดุที่จัดส่งไม่ตรงตามที่แจ้งไว้ ทำให้เกิดความล่าช้าในการจัดส่ง หรือพัสดุเสียหาย สูญหาย หรือสร้างความเดือดร้อนอื่นใดที่ บริษัทอาจได้รับความเสียหาย หรือสูญหายที่เกิดนั้น ผู้ส่งจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบทั้งสิ้น
6.3. ผู้ส่งต้องจัดการหีบห่อสินค้าที่ฝากส่งอย่างเหมาะสม แข็งแรง เพื่อป้องกันการแตกหัก เสียหาย สูญหาย ชำรุดหรือบุบสลาย หากผู้ส่งบรรจุสิ่งของที่ต้องการส่งลงในบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่เป็นไปตามข้อกำหนดไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อพัสดุหรือทำให้พัสดุอื่นๆ เสียหาย/เลอะเปื้อน บริษัทจะไม่รับผิดชอบในความเสียหายหรือสูญหาย หากเกิดจากปัญหาบรรจุภัณฑ์หีบห่อพัสดุดังกล่าว
7. สถานการณ์นอกเหนือการควบคุม
7.1. บริษัทไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหาย และความล่าช้าในการขนส่งที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัทซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง
7.2. เหตุสุดวิสัย เช่น อุบัติเหตุ สงคราม (ทั้งที่ประกาศหรือไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ) รัฐประหาร การก่อกบฏ การปฏิวัติ การก่อการร้าย การจับตัวประกัน เหตุระเบิด หรือการใช้อาวุธสงคราม หรือปฏิกิริยาตอบโต้การกระทำเหล่านี้ รวมทั้งการยึดพัสดุ การนัดหยุดงานของพนักงาน เหตุสุดวิสัย (เช่น นํ้าท่วม แผ่นดินไหว พายุ รถเสีย รถเกิดอุบัติเหตุ ฯลฯ)
7.3. การกระทำหรือการละเลยโดยบุคคลที่ไม่ได้ทำงานหรือทำสัญญากับบริษัทฯ เช่น ผู้ส่งพัสดุ ผู้รับมอบ บุคคลที่สาม ศุลกากรหรือเจ้าหน้าที่รัฐ
7.4. ความเสียหายของข้อมูลเนื่องจากผลกระทบจากสนามแม่เหล็กของพัสดุอื่น
8. อัตราค่าบริการสำหรับการส่งพัสดุ คำนวณจากขนาดปริมาตรและน้ำหนักของพัสดุซึ่งรวมกับบรรจุภัณฑ์ ซึ่งวิธีการคำนวณเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด โดยยึดอัตราค่าระวางจากค่าปริมาตรหรือน้ำหนักของพัสดุที่มากกว่า
9. การตรวจสอบสถานะจัดส่งพัสดุ บริษัทมีบริการแจ้งสถานะการส่งพัสดุผ่านทาง SMS เพื่อให้ผู้รับทราบเมื่อพัสดุถึงปลายทาง บริการส่ง SMS แจ้งเตือนเป็นบริการฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หรือสามารถตรวจสอบสถานะพัสดุผ่านทางเว็บไซต์ได้อีกช่องทาง
10. กรณีจัดส่งพัสดุไม่สำเร็จ
10.1. ผู้รับปลายทางไม่สามารถติดต่อได้ หรือไม่เข้ารับพัสดุตามกำหนด บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับประกันเคลมพัสดุหรือสินค้าทุกกรณี
10.2. กรณียกเลิกการส่งพัสดุ
10.2.1. กรณีเกิดเหตุตามที่ระบุในข้อ 7 เมื่อผู้ขนส่งแจ้งสาเหตุและเสนอการขนส่งพัสดุไปกับรถเที่ยวอื่นให้แก่ผู้ส่งพัสดุทราบ และได้รับแจ้งให้ทำการยกเลิกการส่งพัสดุ บริษัทจะคืนค่าระวางเต็มจำนวน (ไม่รวมค่าธรรมเนียมชำระเงิน) และไม่มีค่าธรรมเนียมยกเลิก
10.2.2. กรณีผู้ส่งพัสดุขอยกเลิกในการส่ง โดยพัสดุยังอยู่ ณ สถานีต้นทาง อาจมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมยกเลิก ต่อใบเสร็จ ต่อครั้ง
10.2.3. กรณีผู้ส่งพัสดุร้องขอให้ส่งคืนพัสดุ หรือ ผู้รับปลายทางปฏิเสธการรับพัสดุ หรือไม่ยอมชำระค่าระวางเรียกเก็บเงินปลายทาง บริษัทจะทำการ ส่งคืนพัสดุให้กับผู้ส่งพัสดุต้นทาง และบริษัทจะเรียกเก็บค่าบริการที่เกิดขึ้นจากการส่งคืนพัสดุนั้นตามจริง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับประกันเคลมพัสดุหรือสินค้าทุกกรณี
10.3. เมื่อบริษัทได้แจ้งให้ผู้ส่งทราบเพื่อติดต่อขอรับพัสดุคืน ผู้ส่งจะต้องรับพัสดุคืนภายใน 10 วันนับจากวันที่ได้รับแจ้ง หากเกินกำหนดผู้ส่งยินยอมเสียค่าฝากพัสดุในราคา 30 บาท/วัน/ชิ้น
10.4. กรณีไม่มีผู้รับพัสดุ หรือติดต่อผู้รับและผู้ส่งไม่ได้ หรือผู้ส่งไม่ติดต่อกลับทางบริษัท หรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น หรือคำสั่งของผู้ส่งไม่อาจปฏิบัติได้ หรือผู้ส่ง ปฏิเสธการรับพัสดุคืน หากไม่มีผู้มารับพัสดุคืนภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งจากบริษัทแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ทำการปล่อยพัสดุ จำหน่ายหรือขายโดยไม่ต้องรับผิดใด ๆ ต่อผู้ส่งพัสดุ หรือบุคคลอื่นโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
11. ความรับผิดชอบ
11.1. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อการสูญหายหรือความเสียหายของพัสดุที่ระบุในข้อ 2 และ 4
11.2. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายของพัสดุที่ระบุในข้อ 3 ยกเว้นกรณีสูญหายเท่านั้น โดยจะชดเชยตามมูลค่าจริงตามใบเสร็จ ซึ่งมีมูลค่าชดเชยสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท ต่อ 1 พัสดุ การคุ้มครองข้างต้นจะไม่ครอบคลุมในส่วนของค่าระวาง
11.3. ความรับผิดชอบของบริษัทในการจัดส่งพัสดุนั้นจะจำกัดเพียงกรณีเกิดความเสียหายและสูญหายโดยตรง ซึ่งมีมูลค่าชดเชยสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท ต่อ 1 พัสดุ
12. การยื่นเรียกร้องค่าเสียหาย
12.1. กรณีสินค้าเสียหาย
12.1.1. ผู้รับพัสดุมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธการรับพัสดุ หากกล่องสินค้ามีการชำรุด แตกหัก ฝาเปิด โดยแจ้งพนักงานจัดส่งทันทีและไม่ควรเซ็นรับพัสดุ รวมถึงแจ้งผู้ส่งพัสดุต้นทางให้ทำการยื่นข้อเรียกร้องสิทธิ์ กรณีสินค้าเสียหายจะต้องแจ้งคำร้องนับจากวันที่มีการนำส่งพัสดุหรือหลังจากที่มีการปฏิเสธการรับพัสดุภายใน 1 วันทำการ
12.1.2. หากพัสดุภายในบรรจุภัณฑ์เป็นพัสดุต้องห้ามหรือพัสดุที่ไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ ดังที่ระบุไว้ในข้อ 2 และ 4 ทางบริษัทจะไม่ชดเชยค่าเสียหายในทุกกรณี
12.2. กรณีพัสดุสูญหาย แบ่งเป็น 2 ประเภท
12.2.1. พัสดุประเภทถูกจำกัดตามข้อ 3 สามารถแจ้งเรื่องเรียกร้องสิทธิได้ หากสถานะพัสดุไม่เคลื่อนไหวนับตั้งแต่วันที่กำหนดส่งแต่ต้องไม่เกิน 7 วัน ทำการนับจากวันครบกำหนดการจัดส่ง
12.2.2. พัสดุทั่วไป สามารถแจ้งเรื่องเรียกร้องสิทธิได้หากสถานะพัสดุไม่เคลื่อนไหว แต่ไม่เกิน 7 วันทำการนับจากวันครบกำหนดการจัดส่ง
12.2.3. กรณีที่ทราบว่าพัสดุเสียหายหรือสูญหาย ผู้ส่งจะต้องส่งเอกสารในการเรียกร้องสิทธิภายใน 7 วันทำการนับจากวันที่มีการแจ้งคำร้อง และหลังจากบริษัทร้องขอเอกสารประกอบการพิจารณา หากเอกสารไม่ครบหรือ ไม่ยื่นเอกสารภายในระยะเวลาที่กำหนด บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาชดเชยค่าเสียหายต่อไป
12.2.4. ขั้นตอนการเรียกร้องค่าเสียหาย
ผู้ส่ง หรือผู้รับสามารถส่งเอกสารเรียกร้องค่าเสียหายที่สถานีขายและสำนักงานขาย กรณีสินค้าเสียหาย ลูกค้าจะต้องเก็บสินค้าไว้จนกว่า กระบวนการพิจารณาจะเสร็จสิ้น หากได้รับอนุมัติการเรียกร้องค่าเสียหายเรียบร้อย บริษัทมีสิทธิในการเรียกคืนพัสดุจากลูกค้าทุกกรณี
1. เอกสารประกอบการเรียกร้องค่าเสียหาย
*กรณีสูญหาย
1. สำเนาบัตรประชาชน / หนังสือเดินทาง (สำหรับชาวต่างชาติ)
2. สำเนาหนังสือจดทะเบียนบริษัท / ภ.พ.20 (ถ้ามี)
3. ใบเสร็จ / ใบแสดงราคาสินค้า / ใบแจ้งหนี้กรณีเสียหาย
4. สำเนาหน้าสมุดบัญชี พร้อมลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง
*กรณีเสียหาย
1. สำเนาบัตรประชาชน / หนังสือเดินทาง (สำหรับชาวต่างชาติ)
2. สำเนาหนังสือจดทะเบียนบริษัท / ภ.พ.20 (ถ้ามี)
3. ใบเสร็จ / ใบแสดงราคาสินค้า / หลักฐานการซื้อขายพร้อมบันทึกการทำธุรกรรมของธนาคาร
4. สำเนาหน้าสมุดบัญชี พร้อมลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง
5.. รูปภาพสินค้าที่เสียหาย พร้อมกับรูปภาพบรรจุภัณฑ์ภายนอก
6. รูปภาพสินค้าบรรจุภัณฑ์ภายใน
7. รูปถ่ายกล่องพัสดุที่สามารถมองเห็นลาเบลได้อย่างชัดเจน
ข้อมูลที่ลูกค้ายื่นเรียกร้องค่าเสียหาย ต้องเป็นข้อมูลและเอกสารประกอบคำขอที่ถูกต้องและครบถ้วน หากข้อมูลไม่ถูกต้องและครบถ้วน ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกร้องค่าเสียหายทุกกรณี
12.5. กรณีผู้รับประสงค์ให้ฝ่ายบริการลูกค้าพิจารณาเคลมพัสดุ การคืนซากจะสงวนสิทธิ์ในการคืน โดยเฉพาะพัสดุที่เสี่ยงเน่าเสีย และ/หรือพัสดุที่มีความเสี่ยง ก่อให้เกิดอันตรายต่อพนักงานขนส่ง
12.6. ทางฝ่ายบริการลูกค้าจะเร่งดำเนินการตอบกลับลูกค้าภายใน 7 วัน หลังได้รับเอกสารคำร้อง
12.7. ผลพิจารณาจะทราบหลังจากตอบกลับผู้รับไม่เกิน 7 วันทำการ
12.8. หากผลพิจารณาไม่ผ่านเงื่อนไขเคลมพัสดุ ฝ่ายบริการลูกค้าจะแจ้งผลให้ทราบทาง Email หรือ โทรศัพท์พร้อมชี้แจงสาเหตุการปฏิเสธ
12.9. หากผลพิจารณาการเคลมผ่านเงื่อนไขเคลมพัสดุ ฝ่ายบริการลูกค้าจะแจ้งผลให้ทราบทาง Email หรือ โทรศัพท์ โดยลูกค้าจะได้รับเงินคืนภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับการยืนยัน
13. สิทธิในการตรวจสอบ
13.1. ทุกการส่งพัสดุผู้ส่งต้องปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
13.2. บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปิดและตรวจสอบพัสดุ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ หากพัสดุเข้าข่ายเป็นวัตถุอันตราย หรือผิดกฎหมาย ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในการจัดส่งพัสดุ
13.3. ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือตำรวจต้องการเปิดและตรวจสอบพัสดุ ทางบริษัทจำเป็นต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่ ซึ่งในกรณีนี้บริษัทไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ผู้จัดส่งพัสดุหรือผู้รับได้ทราบล่วงหน้า
13.4. กรณีที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐ เจ้าหน้าที่ศุลกากรได้เปิดตรวจพัสดุของลูกค้า บริษัทขอสงวนสิทธิ์ ดังนี้ 13.4.1. บริษัทจะไม่รับผิดชอบใดๆ หากพัสดุเกิดความเสียหายในระหว่างการตรวจสอบ
13.4.2. พัสดุที่ถูกเปิดตรวจและโดนยึดโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐ หรือเจ้าหน้าที่ศุลกากร ลูกค้าจะต้องเป็นคนติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อสำแดง เอกสารหรือข้อมูลยืนยันที่มาที่ไปของพัสดุแก่เจ้าหน้าที่ด้วยตนเอง
13.4.3. พัสดุที่ถูกยึดและถูกปล่อยโดยกรมศุลกากร หากผู้ส่งต้องการดำเนินการส่งไปไปยังปลายทางจะต้องทำการแจ้งยืนยันและชำระค่าใช้จ่ายในการจัดส่งใหม่อีกครั้ง จากนั้นบริษัทจะเข้ารับพัสดุกับทางเจ้าหน้าที่และดำเนินการส่งต่อไปยังปลายทางต่อไป
13.4.4. กรณีบริษัทถูกหน่วยงานของรัฐเข้าตรวจสอบและเรียกร้องให้บริษัทเสียค่าปรับ หรือเกิดความเสียหายอื่นใดต่อบริษัท อันเนื่องมาจากการปกปิดข้อมูลหรือแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จจากผู้ส่งนั้น บริษัทขอสงวนสิทธิในการเรียกร้องค่าปรับหรือค่าเสียหายอื่นใด (ถ้ามี) กับผู้ส่งเต็มจำนวน
14. ค่าธรรมเนียมบริการ
14.1 การเปลี่ยนแปลงข้อมูลการส่งสินค้า
14.1.1..กรณีผู้ส่งแจ้งก่อนพัสดุถูกจัดส่งออกจากสถานีต้นทาง มีค่าธรรมเนียมเปลี่ยนแปลงข้อมูล ต่อครั้ง ต่อใบเสร็จ
14.1.2. กรณีพัสดุถูกจัดส่งออกจากสถานีต้นทาง และ/หรืออยู่ระหว่างทาง และ/หรือถึงสถานีปลายทางแล้ว ผู้ส่งจะต้องชำระค่าบริการขนส่งเพิ่มเติมจากสถานีปลายทางปัจจุบันไปยังสถานีปลายทางใหม่ที่ต้องการ
14.2. การขอพิมพ์ใบเสร็จใหม่ มีค่าธรรมเนียมพิมพ์ใบเสร็จใหม่ ต่อครั้ง ต่อใบเสร็จ
15. บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงข้อกําหนดและเงื่อนไขได้ตลอดเวลา โดยจะทำการประกาศผ่านทางเว็บไซต์หรือช่องทางประชาสัมพันธ์ออนไลน์ของบริษัท หลังจากวันที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงข้อกําหนดและเงื่อนไข จะถือว่าผู้ส่งได้ยอมรับข้อกําหนดและเงื่อนไขที่มีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
16. ข้อกําหนดและเงื่อนไขนี้อยู่ภายใต้บังคับและตีความตามกฎหมายไทย ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากบริการ หรือความขัดแย้งระหว่างผู้ส่ง และบริษัทที่เกี่ยวกับบริการ จะอยู่ภายใต้บังคับของศาลไทย
![Green Bus](https://web.greenbusthailand.com/backend/uploads/Frame_5_d0d612e092.png)